ฟังเสียงทูตไทยในปราก“ไม่มีคนไทยในเช็กติดเชื้อโควิด-19”
08 Apr 2020 17:00 น.
คอลัมน์: พื้นที่นี้....Exclusive โดย: งามตา สืบเชื้อวงค์
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลามไปทั่วโลก เริ่มเข้าสู่ขั้นวิกฤติ เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต่อไปอีก จนหลายคนกังวลว่าอาจจะเกินกว่าขีดความสามารถที่ระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศจะรองรับได้ ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากขึ้น และในสถานะการณ์แบบนี้ คนไทยในต่างประเทศมีความปลอดภัยดีแค่ไหน การช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐเช่นสถานทูตครอบคลุมทั่วถึงหรือไม่
ล่าสุด”ฐานเศรษฐกิจ”มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษนางอุรีรัชต์ เจริญโต เอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก ผ่านทางโทรศัพท์เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสาธารณรัฐเช็ก และการดูแลคนไทยในต่างแดนในยามวิกฤติ
-สาธารณรัฐเช็กกับมาตรการรับมือ
เอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก ปรากฏ กล่าวว่าจากรายงานล่าสุดผู้ติดเชืิื้อไวรัสโควิด 19 ณ วันที่ 8 เมษายน 2563 มีคนติดเชื้อในเช็กจำนวน 5,033 ราย ผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อประมาณ 98,681ราย รักษาหาย 181 ราย และเสียชีวิต 91ราย โดยมีผู้ติดเชื้อในกรุงปรากมากที่สุดจำนวน 1,260 ราย
ทำให้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 รัฐบาลเช็กได้ออกประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยมีผลบังคับใช้ 30 วัน และล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรเช็กอนุมัติขยายภาวะฉุกเฉินจนถึงวันที่ 30 เมษายน 63 นอกจากนี้ รัฐบาลเช็กยังประกาศจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ห้ามคนเช็กออกนอกประเทศ และห้ามคนต่างชาติเข้าเช็ก ยกเว้นผู้ที่ถือสัญชาติเช็ก ผู้มีถิ่นพำนักถาวรหรือชั่วคราว เกินกว่า 90 วัน ซึ่งบุคคลประเภทหลังนี้ หากเดินทางออกนอกเช็กจะไม่สามารถกลับเข้ามาได้อีกในช่วงที่ภาวะฉุกเฉินมีผลบังคับใช้
สำหรับมาตรการภายในประเทศนั้น เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2563 รัฐบาลเช็กประกาศให้ร้านอาหารและร้านค้าปิดทำการ ยกเว้นร้านจำหน่ายอาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนร้านอาหารหากเป็นการ take away กลับมาทานที่บ้านสามารถทำได้
จำกัดการสัญจรของประชาชนยกเว้นการเดินทางไปที่ทำงาน สถานพยาบาล ซื้ออาหาร ยา ธนาคาร ไปรษณีย์ และสถานีเติมน้ำมัน และล่าสุด มีการขยายประกาศนี้ไปจนถึงวันที่ 11เมษายนแล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลยังกำหนดให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่สาธารณะ ทั้งในและนอกอาคาร
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก ได้ประชาสัมพันธ์สถานการณ์และข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการของเช็ก รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์สำคัญ ให้คนไทยทราบอย่างสม่ำเสมอผ่านทาง Facebook และ Website ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 5,000 คน รวมทั้งตอบคำถามข้อสงสัยของคนไทยในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเดินทางกลับไทย ซึ่งก็มีมาตรการของฝ่ายไทยออกมาด้วย และการออกหนังสือรับรอง เป็นต้น
-ปัจจุบันนี้มีคนไทยในสาธารณรัฐเช็กกี่คน
สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนคนไทยตั้งแต่ปี 2562 และเปิดให้ลงทะเบียนครั้งล่าสุดในเดือนมีนาคม 2563 เพื่อปรับปรุงจัดทำฐานข้อมูลคนไทยให้เป็นปัจจุบัน ตัวเลขคนไทยในขณะนี้ที่ลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตมีจำนวน 616 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานนวด โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดทำทะเบียนคนไทยแยกเป็นรายแคว้นและรายเมืองด้วย เพื่อให้ทราบภาพรวมและความสะดวกในการติดต่อ คนไทยในเช็ก
ในส่วนของนักศึกษาไทยในเช็กซึ่งมีประมาณ 20 คน สถานเอกอัครราชทูตฯ มีช่องทางติดต่อผ่านกลุ่มของนักศึกษาซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้สนับสนุนให้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรวมตัวกันทำกิจกรรมและช่วยเหลือให้คำแนะนำกันและกัน เอกอัครราชทูตฯ ยังได้จัดการพบปะหารือและจัดเลี้ยงอาหารให้กับนักศึกษาไทยอยู่เป็นประจำเพื่อรับฟังสารทุกข์สุกดิบ
ตลอดจนประเด็นปัญหาในการปรับตัวทั้งในด้านการศึกษาและการใช้ชีวิตประจำวัน รวมทั้งเพื่อสร้างความเข้มแข็งและสร้างความคุ้นเคยในกลุ่มนักศึกษาไทยและส่งเสริมความสัมพันธ์และความใกล้ชิดระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับกลุ่มนักศึกษาไทยในสาธารณรัฐเช็ก
-สถานทูตดูแลและช่วยเหลือคนไทย 3 ส่วนช่วงวิกฤติ
สำหรับการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก ในการดูแลช่วยเหลือคนไทย แบ่งได้เป็น 3 ส่วนคือ
1. การให้ข่าวสารและการแจกจ่ายหน้ากากผ้า นอกจากการให้ข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นต่อคนไทยอย่างสม่ำเสมอทั้งในด้านมาตรการของเช็กและในด้านสุขอนามัย สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้แจกจ่ายหน้ากากผ้าที่ได้จัดซื้อจากทัณฑสถานหญิงกลางในประเทศไทยให้แก่คนไทยโดยเปิดให้ลงทะเบียนขอรับและได้จัดส่งแล้วทางไปรษณีย์ทั้งหมด 500 ชิ้น
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ทางการเช็กกำหนดให้ประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่สาธารณะพอดี เนื่องจากหน้ากากอนามัยและหน้ากากประเภทต่าง ๆ ก็ยังคงขาดแคลนและไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าต่าง ๆ การแจกจ่ายหน้ากากผ้าจึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชุมชนไทยในสาธารณรัฐเช็ก นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้จัดซื้อน้ำยาและอุปกรณ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื่อถวายวัดธรรมกิตติวงศ์ วัดไทยในกรุงปรากด้วย ปัจจุบัน ไม่มีคนไทยในเช็กติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ คนไทยในเช็กสามารถติดต่อฝ่ายกงสุล ได้ตลอดเวลาทางโทรศัพท์ฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตฯ ค่ะ
2. การช่วยเหลือคนไทยในการเดินทางกลับประเทศไทย ตาม พรก. ฉุกเฉินและตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่ง ปทท. (กพท.) ออกประกาศกำหนดแนวปฏิบัติสำหรับคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศที่จะเดินทางกลับไทย โดยต้องมีใบรับรองแพทย์ (fit to fly) และหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตฯ นั้น คนไทยในเช็กประสบปัญหาในการนัดหมายแพทย์เพื่อขอใบรับรองแพทย์ดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้จัดทำรายชื่อแพทย์ในกรุงปราก เมืองคาร์โลวี วารี และเบอร์โน ที่รับตรวจและออกใบรับรองแพทย์ข้างต้น
ตลอดจนช่วยทำการนัดหมายแพทย์ให้คนไทยหากไม่สามารถดำเนินการได้เอง สำหรับหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตฯ นั้น เมื่อได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้องครบถ้วน ก็สามารถออกหนังสือรับรองให้ได้ทันที นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังคอย update เที่ยวบินของสายการบินต่าง ๆ ที่เดินทางไปไทยอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้บริการข้อมูลแก่คนไทย ล่าสุด เหลือเพียงสายการบิน Qatar Airways ที่ยังทำการบินไปไทยอยู่ ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้คนไทยเดินทางกลับไทยแล้วประมาณ 15 คนแล้ว
ล่าสุดที่ กพท. ประกาศห้ามสายการบินขนส่งผู้โดยสารเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 7-18 เมษายน 2563 สถานเอกอัครราชทูตฯ ก็ช่วยเหลือในการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน และสอบถามความเป็นอยู่ของคนไทยอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการจัดหาอาหารและที่พักให้ในระหว่างที่รอเดินทางกลับในกรณีที่คนไทยหมดสัญญาจ้างและนายจ้างไม่ให้พักต่อด้วย
3. การช่วยเหลือด้านกฎหมาย โดยที่รัฐบาลเช็กประกาศให้ร้านค้า ร้านบริการ รวมทั้งร้านนวดหยุดการให้บริการตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2563 สถานเอกอัครราชทูตฯ เริ่มได้รับการร้องเรียนและขอคำแนะนำจากคนไทยที่เป็นพนักงานนวดว่า นายจ้างจะยกเลิกสัญญาหากจะเดินทางกลับไทย โดยจะไม่จ่ายเงินชดเชย และนายจ้างไม่ยอมจ่ายค่าจ้างในช่วงการปิดร้าน เป็นต้น ซึ่งตามกฎหมายแรงงานเช็ก นายจ้างยังต้องจ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้าง สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ให้ข้อมูลและคำแนะนำตามที่ได้รับจากทนายความท้องถิ่นที่ได้ว่าจ้างไว้และพร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการทันทีหากได้รับการร้องขอ
-สถานทูตเตรียมแผนอพยพกรณีฉุกเฉิน
ในกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดทำแผนเผชิญโรคระบาดรวมถึงแผนอพยพคนไทยทั้งทางอากาศและทางบก โดยได้จัดส่งให้กระทรวงต่างประเทศแล้ว ซึ่งทางเลือกที่ดีและสะดวกที่สุดคือการอพยพทางอากาศจากกรุงปราก แต่หากมีความจำเป็นต้องอพยพทางบก ก็สามารถดำเนินการได้สองเส้นทางคือผ่านทางออสเตรีย เพื่อไปต่อเครื่องบินที่กรุงเวียนนา หรือผ่านทางเยอรมนี เพื่อไปต่อเครื่องบินที่มิวนิก โดยกลุ่มคนไทยที่อาศัยทางตอนเหนือให้มารวมตัวที่กรุงปราก และทางใต้ให้รวมตัวที่เมืองเบอร์โน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้เตรียมข้อมูลหน่วยงานประสานงานและช่องทางการติดต่อไว้แล้ว
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในขณะนี้ คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทยยังมีไม่มาก และยังสามารถเดินทางได้ด้วยสายการบินพาณิชย์ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ เห็นว่า ระเบียบการให้ความช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศที่มีอยู่ก็สามารถสนับสนุนการช่วยเหลือคนไทยในเช็กในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ได้อย่างครอบคลุม
ติดตามบทสัมภาษณ์ทั้งหมดได้ที่