สาธารณรัฐเช็ก

ข้อมูลทั่วไป

      สาธารณรัฐเช็ก (The Czech Republic) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (European Union: EU) และเป็นประเทศที่มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจในลำดับต้นของภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก โดยเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามระดับโลก และยังเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเยอรมนีแห่งยุโรปตะวันออก

      จนถึงต้นปี 2563 ก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในเช็ก การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับชะลอตัว โดยเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 2% - 2.2% ซึ่งสอดคล้องกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรป และตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในเช็กรายแรก และตามมาด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม 2563 สลับกับการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯ และการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นและเยียวยาทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้รายจ่ายและหนี้ภาครัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหดตัวที่ -5.6% ในปี 2563 อย่างไรก็ดี เมื่อเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ตั้งแต่กลางปี 2564 สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและกลับเข้าสู่ทิศทางที่ดีขึ้นและจนถึงไตรมาส 3/2564 อัตราการเติบโตอยู่ที่ 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563

ภูมิประเทศและภูมิอากาศ

      สาธารณรัฐเช็กมีพรมแดนติดกับเยอรมนี ออสเตรีย สโลวะเกีย และโปแลนด์ อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถเป็นประตูเชื่อมต่อได้ทั้งยุโรปกลาง ยุโรปตะวันตก และยุโรปตะวันออก มีพื้นที่ 78,866 ตารางกิโลเมตร ไม่มีทางออกสู่ทะเล

      พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 200 เมตร มีเนินเขา แม่น้ำ และทะเลสาบขนาดเล็กกระจายตัวอยู่ทั่วไป

      สภาพภูมิอากาศแบ่งเป็น 4 ฤดู โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดในฤดูหนาวอยู่ที่ประมาณ -20 องศาเซลเซียส และสูงสุดในฤดูร้อนประมาณ 30-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส อากาศค่อนข้างเย็นสบาย มักมีฝนในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิระหว่างวันเปลี่ยนแปลงได้ง่ายเนื่องจากลักษณะของภูมิประเทศ

      สาธารณรัฐเช็กมีทั้งพื้นที่อุตสาหกรรมและเกษตรกรรม และมีแร่ธาตุที่สำคัญหลายอย่าง เช่น ถ่านหิน และยูเรเนียม

ประชากร

      มีประชากร 10.7 ล้านคน โดยมีอัตราการเติบโตของประชากรคิดเป็นร้อยละ 0.17

การเมืองการปกครอง

      เช็กปกครองในระบอบสาธารณรัฐ โดยใช้รูปแบบประชาธิปไตยแบบมีรัฐสภา มีประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศ และมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล แบ่งเขตการปกครองเป็น 13 เขตกับ 1 นครหลวง (เมืองหลวง)

      มีกรุงปราก (Prague หรือ Praha) เป็นเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือของประเทศ และมีเมืองเบอร์โน (Brno) เป็น เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ และเป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับสองด้วยเช่นกัน

      สาธารณรัฐเช็กแยกตัวออกจากการเป็นเชโกสโลวะเกียตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2536 และได้เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2547

ภาษา

      ภาษาราชการ คือ ภาษาเช็ก

      สำหรับการทำธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ และในย่านท่องเที่ยว มีการใช้ภาษาอังกฤษ เยอรมัน และรัสเซีย เป็นภาษากลางสำหรับสื่อสารทั่วไป   

ศาสนา

      ไม่มีศาสนาประจำชาติ โดยมีผู้ที่ไม่นับถือศาสนาร้อยละ 59 ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกร้อยละ 26.8 และผู้นับถือศาสนาอื่นๆ ร้อยละ 14.2

สกุลเงิน

    แม้สาธารณรัฐเช็กจะเป็นสมาชิก EU แล้ว แต่ยังคงใช้สกุลเงินของตัวเองที่เรียกว่า เช็กคอรูน่า (CZK หรือ Kč) หรือเช็กคราวน์ โดยอัตราแลกเปลี่ยน 1 คอรูน่า เท่ากับประมาณ 1.51 บาท (สถานะ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตามอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทย) และอยู่ที่ประมาณ 22.141 คอรูน่า และ 25.058 คอรูน่า ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ และ 1 ยูโร ตามลำดับ (สถานะวันที่ พฤศจิกายน 2564 ตามอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารกลางเช็ก)

เมืองหลวง

      กรุงปราก (Prague หรือ Praha) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เมืองปรากมีจุดเด่นน่าสนใจ ดังนี้

  •       1) เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหาร โบสถ์ อาคารบ้านเรือนต่างๆ ล้วนมีความงดงามและมีความหมายในทางประวัติศาสตร์ และมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวภายในตัวกรุงปรากได้อย่างสะดวก สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งไม่ห่างกันมาก ทำให้ปรากขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นเมืองสำหรับเดินเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ ปราสาทปราก (Prague Castle) ที่งดงามมาก ตั้งให้เห็นเด่นเป็นสง่าอยู่บนเชิงเขาใจกลางเมือง จากปราสาทสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ความงามของปรากได้รอบ สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ที่สำคัญของเมือง และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายภาพมากที่สุดจุดหนึ่ง และจัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) ซึ่งมีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และมีหอนาฬิกาดาราศาสตร์เก่าแก่ที่ตีบอกเวลาทุกชั่วโมง
  •       2) มีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป กล่าวคือ มหาวิทยาลัยชาร์ลส์ (Charles University) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1348 (พ.ศ. 1891) จึงมีอายุนานกว่า 600 ปีแล้ว โดยก่อตั้งขึ้นในสมัยพระเจ้า Charles ที่ 4 ซึ่งทรงเป็นกษัตริย์ที่ชาวเช็กให้ความเคารพอย่างยิ่ง สะพานชาร์ลส์ที่เลื่องชื่อก็สร้างขึ้นในสมัยเดียวกันนี้
  •       3) ด้านศิลปวัฒนธรรม กรุงปราก มีโรงละครหลายแห่งที่สวยงามและเก่าแก่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังของยุโรปในยุคโบราณ มีโรงเรียนดนตรีและโรงเรียนสอนการผลิตภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีคลาสสิกเป็นประจำอยู่ทั่วไป ในด้านภาพวาด ศิลปินเอกผู้เป็นดังสัญลักษณ์ของศิลปะที่นี่คือ Mucha ผู้รังสรรค์ลายเส้นของสตรีได้อย่างอ่อนช้อยสวยงาม ที่ปรากจึงมีทั้งพิพิธภัณฑ์ Mucha ให้ผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะได้ไปเยี่ยมชม และมีของที่ระลึกซึ่งเป็นภาพวาดผลงานของศิลปินผู้นี้วางจำหน่ายอยู่มากมาย Museum
  •       4) แม่น้ำวัลตาวา (Vltava) ที่ไหลผ่านกลางเมืองถือเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้กรุงปรากได้รับการกล่าวขวัญถึงความสวยงามไปทั่วโลก และยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินที่เคยมาเยี่ยมเยือนปรากอีกจำนวนไม่น้อยด้วย

เมืองท่องเที่ยว

       เช็กถือเป็นประเทศที่มีแหล่งมรดกโลกตามที่ UNESCO ได้กำหนดไว้เป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ประเทศที่ไม่ใหญ่นัก โดยเมืองสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปนอกเหนือจากปราก ได้แก่

  •       1) เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เป็นเมืองมรดกโลกและเมืองประวัติศาสตร์ที่มีบรรยากาศที่โรแมนติก มีปราสาทเชสกี้ ครุมลอฟ ซึ่งถือเป็นปราสาทอันดับสองของประเทศ มีโรงละคร baroque ที่เก่าแก่ และมีแม่น้ำวัลตาวาไหลผ่านตัวเมืองเช่นกัน ทำให้มีบรรยากาศร่มรื่น เข้ากับความน่ารักของเมืองโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี การชมวิวทิวทัศน์จากมุมสูงและการเดินเล่นไปถนนหินเล็กๆ ที่คดเคี้ยวไปมาท่ามกลางบ้านเรือนแบบย้อนยุคถือเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมทำยามไปเยี่ยมเยือนเมืองนี้
  •       2) เมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy Vary) เป็นเมืองสปาที่มีชื่อเสียงด้านการรักษาสุขภาพด้วยน้ำแร่ เป็นที่พักตากอากาศในสมัยก่อนของเจ้าผู้ครองนคร ปัจจุบัน นอกจากการไปทำสปาเพื่อสุขภาพแล้ว นักท่องเที่ยวนิยมไปเดินเล่น เก็บภาพบ้านเรือนสีสันสดใส และชิมขนมเวเฟอร์แผ่นชื่อดังของเมือง และล่าสุดเมืองคาร์โลวี วารีได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ UNESCO ร่วมกับเมืองสปาอีก 2 แห่งในเช็ก ได้แก่ เมืองมาเรียนสกี้ ลาซนีย์ (Mariánské Lázně) และเมืองฟรานติชโควี ลาซนีย์ (Františkovy Lázně) ร่วมกับเมืองสปาที่มีชื่อเสียงของยุโรปอีก 7 ประเทศ (รวม 11 เมือง) ภายใต้ชื่อ The Great Spa Town of Europe
  •       3) เมืองคุทนา ฮอร่า (Kutna Hora) เป็นเมืองโบราณที่มีวิหารสวยงามชื่อ ซานต้า บาบาร่า (Santa Babara Cathedral) (นักบุญหญิงผู้ปกป้องคนงานเหมืองแร่) ซึ่งได้รับการสร้างขึ้นในรูปแบบโกธิค (Gothic) ที่มีรูปทรงแหลมเสียดฟ้า นอกจากนี้ ยังมีโบสถ์อีกแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมาก คือโบสถ์โครงกระดูก (Bone Church) ภายในตกแต่งด้วยกระดูกคนทั้งหมด รวมไปถึงโคมไฟระย้าขนาดใหญ่ (chandelier) ก็ทำมาจากโครงกระดูก
  •       4) เขตโมราเวีย (Region of Moravia) เป็นเขตที่มีชื่อเสียงในการปลูกไร่องุ่น มีโรงเก็บไวน์ (Wine Cellar) ที่เปิดให้ชิมไวน์ตลอดปี (wine tasting)
     

ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก

 

    Fact Sheet ::

    • เกี่ยวกับสาธารณรัฐเช็ก

    • ข้อมูลสาธารณรัฐเช็ก (Factsheet)

    • ข้อมูลสาธารณรัฐเช็ก


Top