ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก เรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในสาธารณรัฐเช็ก

12/04/2564


สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปรากขอเรียนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสาธารณรัฐเช็ก และมาตรการของรัฐบาลเช็กให้ทราบ ดังนี้

1. ณ วันที่ 12 เม.ย. 2564 มีผู้ติดเชื้อโควิด-19(active case) ทั้งหมด 249,536 คน เพิ่มขึ้น 2,811 คน รักษาตัวอยู่ใน รพ. 5,070 คน ลดลง 1,674 คน และมีอาการสาหัส 1,157 คน ลดลง 208 คน ปจบ. ค่า Reproduction number (R) ในเช็กอยู่ที่ 0.9 และระดับประเมินความเสี่ยงของโควิด-19 (Anti-Epidemic System - AES) อยู่ระดับ ที่ 4 (คะแนนดัชนีความเสี่ยง (Risk Index -RI) อยู่ที่ 62 (เพิ่มขึ้น 10 จุด) แต่มาตรการที่เคร่งครัดของ รบ. ยังใช้บังคับเสมือน ปท. ระดับ AES อยูในระดับที่ 5

2. ตั้งแต่เริ่มการแพร่ระบาดของโควิด-19มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสฯในเช็กสะสม 1,580,189 คน เพิ่มขึ้น 19,412 คน โดยมีผู้รักษาหายสะสม 1,449,052 คน เพิ่มขึ้น 18,236 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 27,808 คน เพิ่มขึ้น 479 คน โดยมีผู้เข้ารับการตรวจ PCR Test ทั้งหมด 6,435,645 คน เพิ่มขึ้น 85,702 คน และมีผู้เข้ารับการตรวจ Antigens Test ทั้งหมด 7,872,972 คน เพิ่มขึ้น 672,437 คน

3. ปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดใน ปท.อยู่ในแคว้นโบฮีเมียกลาง(ติดกับกรุงปราก) จำนวน 221,977 คน รองลงมาคือแคว้นปราก จำนวน 177,109 คนและแคว้น Moravia-Silesia จำนวน 167,258 คน และแคว้นที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่น้อยที่สุด (เนื่องจากจำนวน ปชช. ในพื้นที่) ได้แก่ แคว้น Karlovy Vary ทั้งหมด 44,618 คน

4. ภายใน 76 เขต ใน ปท.เขตที่มีการแพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุด คือ เขต Zdar nad Sazavou แคว้นโมราเวียกลาง โดยมีผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ใหม่ 425 คนต่อจำนวนประชากร 100,000 คน ภายในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา รองลงมาได้แก่ เขตเมือง Ceska Lipa แคว้นโบฮีเมียตอนเหนือ มีผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ใหม่ 387 คน/100,000 คน เขตเมือง Jihlava แคว้นโมราเวียตอนใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ใหม่ 385 คน/100,000 คน และเขต Decin แคว้นโบฮีเมียตอนเหนือ มีผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ใหม่ 382 คน/100,000 คน (รวมทั้งพบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้ 2 ราย)

5. ตั้งแต่วันพุธที่ 14 เม.ย. 2564 รัฐเปิดให้ ปชช. ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป (อายุระหว่าง 65-69 ปี) สามารถลง ทบ. เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ รวมทั้งผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ โรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลให้
ไม่สามารถอยู่ภายใต้มาตรการล็อคดาวน์ได้ โดย ปชช. กลุ่มนี้ มีอยู่ประมาณ
670,000 คน ใน ปท. ซึ่งในจำนวนนี้บางส่วนได้รับวัคซีนไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเป็นผู้ที่เข้าข่ายอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่รัฐให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก 


การดำเนินการของรัฐบาลเช็ก

1. วันนี้ถือเป็นวันแรกของการสิ้นสุดการประกาศภาวะฉุกเฉินภายในประเทศยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวในช่วงเวลากลางคืน (21.00-05.00 น.) รวมทั้งยกเลิกการจำกัดการสัญจรอย่างเสรีของประชาชน ในการออกนอกเขตเมืองที่พักอาศัยของตน นอกจากนี้ ยังมีการผ่อนผันมาตรการให้เปิดร้านค้าต่าง ๆ บางประเภท อาทิร้านจำหน่ายเสื้อผ้ารองเท้าเด็ก ร้านเครื่องเขียน ร้านซักรีด/ซักแห้ง ร้านทำกุญแจ ร้านซ่อมเครื่องใช้ในบ้าน และร้านที่จำหน่ายอะไหล่รถยนต์และเครื่องจักร ตลาดสด farmer's markets ร้านจำหน่ายบุหรี่ นสพ. ร้านจำหน่ายดอกไม้ ต้นไม้ อาหารสัตว์ สวนสัตว์ และสวนพฤกษศาสตร์ สำหรับร้านอาหารสามารถเปิดให้บริการแบบซื้อกลับบ้าน (จำหน่ายอาหารทางหน้าต่าง) ได้จนถึงเวลา 22.00 น.

2. มาตรการผ่อนผันรวมถึงการอนุญาตให้มีการจัดงานศพหรืองานแต่งงานได้ โดยให้มีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 15 คน นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้กลุ่มบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในครัวเรือนเดียวกันรวมตัวกันได้ภายในอาคารไม่เกิน10 คน และภายนอกอาคารไม่เกิน 20 คน (แต่คาดว่าน่าจะยกเลิกและกลับไปใช้มาตรการห้ามให้บุคคลรวมตัวกันไม่เกิน 2 คนเช่นเดิมแทน)

3. ตั้งแต่วันนี้ ศธ. ได้เริ่มให้ นร. ชั้นอนุบาล (pre-school) และประถมศึกษา (เกรด 1-5) ในบางเขตกลับเข้าเรียนที่ รร. เป็นปกติ หลังจากมีการปิด รร. เป็นเวลา 282 วัน โดยสลับกับการเรียนทางไกลที่บ้านและเข้าเรียนที่ รร. ที่ละ 1 สัปดาห์ โดยมีเงื่อนไขให้ นร. ตรวจ antigen test สัปดาห์ละ 2 ครั้ง นขณะที่ นร. ระดับประถมศึกษาตอนปลายจากชั้นที่ 6-9 ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย และ นศ.มหาวิทยาลัยจะยังเรียนทางไกลจากที่บ้าน

4. รัฐขยายเวลาห้ามชาวเช็กและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในเช็กเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงรุนแรง (สีดำ) (extreme risk - black) จนถึงสิ้นเดือน พ.ค. 2564 เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้ โดย ปท. ที่ต้องห้ามเดินทาง ได้แก่ บอตสวานา บราซิล เอสวาตินีเคนยา เลโซโท มาลาวี โมซัมบิกแอฟริกาใต้ แทนซาเนีย แซมเบีย ซมบับเว และในวันนี้ ได้เพิ่มอีกสอง ปท. ได้แก่ เปรู และโคลอมเบีย

*****************************

กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยเช็กได้ปรับมาตรการในการเดินทางเข้า-ออกสาธารณรัฐเช็ก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2564 ดังนี้

**สำหรับชาวเช็ก หรือชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักตามกฎหมายในเช็ก**

1. กรณีเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ (สีเขียว) ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ

2. กรณีเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลาง (เหลือง/ส้ม) และเมื่อเดินทางเข้าสาธารณรัฐเช็กจะใช้บริการรถสาธารณะประจำทาง ให้แสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 โดยหากเป็นผลการตรวจแบบ antigen test ให้มีอายุไม่เกิน 24 ชั่วโมง และหากเป็น PCR Test ให้มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง หากเมื่อเข้า ประเทศและใช้รถส่วนตัว (เพื่อเดินทางกลับบ้านหรือเข้าเมือง) ไม่จำเป็นต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้า ประเทศแต่ให้ตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ antigen test หรือ PCR Test ก็ได้หลังจากที่เดินทางมาถึงภายใน 5 วัน

3. กรณีเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูง (แดง) และเมื่อเดินทางเข้าสาธารณรัฐเช็ก จะใช้บริการรถสาธารณะประจำทาง ให้แสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 โดยหากเป็นผลการตรวจแบบ antigen test ให้มีอายุไม่เกิน 24 ชั่วโมง และหากเป็น PCR Test ให้มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง และให้ตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ PCR Test หลังจากที่เดินทางมาถึงแล้วอีกครั้งภายใน 5 วัน หากเมื่อเข้า ประเทศและใช้รถส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้า ประเทศแต่ให้ตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ PCR Test ก็ได้หลังจากที่เดินทางมาถึงภายใน 5 วัน โดยทั้งสองกรณีจะต้องกักตัวในระหว่างที่รอผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ นอกจากนี้ จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยแบบ FFP2 เป็นเวลา 14 วัน หลังจากมาถึง ในขณะที่ออกนอกที่พักอาศัยของตน

4. กรณีเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมาก (แดงเข้ม) และเมื่อเดินทางเข้าสาธารณรัฐเช็ก ไม่ว่าจะใช้บริการรถสาธารณะประจำทาง หรือรถส่วนตัว ให้แสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 โดยหากเป็นผลการตรวจแบบ antigen test ให้มีอายุไม่เกิน 24 ชั่วโมง และหากเป็น PCR Test ให้มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง และให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งเมื่อเข้า ประเทศแล้ว แบบ PCR Test ไม่ช้ากว่าวันที่ 5 นับจากวันที่เดินทางมาถึง และให้กักตัวเองจนกว่าจะได้รับผลการตรวจเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ หากจะออกนอกที่พักอาศัยของตนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยแบบ FFP2 เป็นเวลา 14 วัน หลังจากมาถึง





 **สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่มีถิ่นพำนักตามกฎหมายในเช็ก**

1. กรณีเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ (สีเขียว) ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ

2. กรณีเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลาง (เหลือง/ส้ม) แสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ โดยหากเป็นผลการตรวจแบบ antigen test ให้มีอายุไม่เกิน 24 ชั่วโมง และหากเป็น PCR Test ให้มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง และสวมใส่หน้ากากอนามัยแบบ FFP2 เป็นเวลา 14 วัน หลังจากมาถึง ในขณะที่ออกนอกที่พักอาศัยของตน

3. กรณีเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูง (แดง) ให้แสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ โดยหากเป็นผลการตรวจแบบ antigen test ให้มีอายุไม่เกิน 24 ชั่วโมง และหากเป็น PCR Test ให้มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง และเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ PCR Test อีกครั้งภายใน 5 วันหลังจากเดินทางเข้าสาธารณรัฐเช็ก และจะต้องกักตัวในระหว่างที่รอผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ นอกจากนี้ จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยแบบ FFP2 เป็นเวลา 14 วัน หลังจากมาถึง ในขณะที่ออกนอกที่พักอาศัยของตน

4. กรณีเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมาก (แดงเข้ม) ให้แสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ PCR Test เป็นลบ โดยมีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง และเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ PCR Test อีกครั้งภายใน 5 วันหลังจากเดินทางเข้าสาธารณรัฐเช็ก กักตัวในระหว่างที่รอผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบและสวมใส่หน้ากากอนามัยแบบ FFP2 เป็นเวลา 14 วัน หลังจากมาถึง ในขณะที่ออกนอกที่พักอาศัยของตน

ปัจจุบัน สาธารณรัฐเช็กได้จัดกลุ่มประเทศต่าง ๆ ดังนี้

• ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ (สีเขียว): ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ไทย และนครวาติกัน
• ประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลาง (เหลือง/ส้ม): โปรตุเกส หมู่เกาะ Azores (โปรตุเกส) เกาะ Balearic Islands (สเปน) ไอซ์แลนด์
• ประเทศที่มีความเสี่ยงสูง (แดง): เดนมาร์ก ฟินแลนด์ โครเอเชีย ไอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ ลิทัวเอเนีย ลัตเวียลักเซมเบิร์ก มอลตา โมนาโก นอร์เวย์ ออสเตรีย โรมาเนีย กรีซ สโลวาเกีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สเปน เกาะ Madeira (โปรตุเกส)
• ประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมาก (แดงเข้ม): ทุกประเทศที่เหลือที่ไม่ได้กล่าวถึงในกลุ่มประเทศอื่น ๆ
• ประเทศที่มีความเสี่ยงรุนแรง (ดำ): บอตสวานา บราซิล เอสวาตีนี (สวาซิแลนด์) แอฟริกาใต้ เคนยา เลโซโท มาลาวี โมซัมบิก แทนซาเนีย (รวมถึงแซนซิบาร์ และเพมบา) แซมเบีย ซิมบับเว เปรูและโคลอมเบีย


 
อ่านรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศเช็ก
https://www.mzv.cz/.../x2021_02_05_overview_new_travel...
เว็บไซด์กระทรวงสาธารณสุขเช็ก
https://koronavirus.mzcr.cz/en/
เว็บไซต์กระทรวงมหาดไทยเช็ก
https://www.mvcr.cz/.../coronavirus-information-of-moi.aspx
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 


Top